ผ่านมา 3 ปี เปลี่ยนมา 3 ชื่อ สุดท้ายก็อยู่ครบ 3 ปี จนได้สินะ :mrgreen: ปีที่ผ่านมาก็เป็นปีที่มีอะไรเกิดขึ้นเยอะเหมือนกัน ตั้งแต่เกือบจะลาออกจากที่นี่ เปลี่ยนมาทำงานอื่นนอกเหนือจาก EDI บ้าง จนถึงได้ไปทำงานต่างประเทศครั้งแรก แต่สุดท้ายแล้วก็ไปไหนไม่รอด อยู่มาจนครบ 3 ปีละคร้าบบบบ
Some fun facts
- Booktime ไปแล้ว 6326.92 ชั่วโมง คิดเป็น 790.865 MD
- เป็น self study 114 ชั่วโมง หรือ 14.2063 MD คิดเป็น 1.79%
- เป็นลาป่วย กับ ลาหยุด 364 ชั่วโมง หรือ 45.5 วัน
- ทำ issue / CR แบบ มีเบอร์ให้ลง 1019 อัน
- CR ที่ใช้เวลาทำนานทีสุดคือ Annual EDI Upgrade 2010
From SIEMENS to SIS to Atos
- ก็เห็นการเปลี่ยนแปลงเยอะเหมือนกัน ระบบต่างๆภายในดูเหมือนจะทันสมัยขึ้น ในด้านการทำงานก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก นอกจากการเข้าระบบต่างๆ ของลูกค้าหลักอย่าง Siemens ทำได้ยากขึ้น และช้าลง
- เปลี่ยนชื่อบริษัททั้งที Brand Awareness น่าจะเริ่มจากภายในนะ อย่างบัตรพนักงานจะให้เอาสติกเกอร์มาติดทับ จริงดิ!
- ช่วงที่กำลังเปลี่ยนผ่าน HR บอกเสมอว่าทุกอย่างจะเหมือนเดิมๆๆ ก็คิดในใจ ถ้าทุกอย่างเหมือนเดิม แล้วจะเปลี่ยนทำไมฟร่ะ
- อย่างใน Contract เขียนไว้ว่า “The Employee’s salary will be reviewed annually by the Employer. Any salary review will be done with a view to assessing the Employee’s acheievement of overall objectives established from time to time.” อ่านแล้วก็เข้าใจว่า salary review จะมีทุกปี ปีที่แล้วเงินเดืิอนขึ้น เดือนมกรา ปีนี้ก็ควรขึ้นเดือนมกรา แต่เอาเข้าจริง ไม่เป็นอย่างนั้น กลายเป็นว่ากว่าจะขึ้นก็เดือนเมษา นู่นเลย
- ข้อมูลต่างๆ ในการเปลี่ยนผ่านบริษัท มาถึงพนักงานแบบเป็นทางการโคตรช้า
บ่น บ่น บ่น
- Bottom up evaluation: น้อยมาก จนแทบจะไม่เห็นเลย
- Support VS Project: ทำไมต้ัองแบ่งแยกกันขนาดนั้น ทั้งๆ ที่งาน support และ project น่าจะเกื้อหนุนกัน คน support ถ้าไปทำ project น่าจะเห็นว่าควรทำยังไง ไม่ให้มามีปัญหาตอนหลัง คน project ถ้ามาทำ support ในระบบอย่าง SPIRIDON ก็น่าจะเห็น best practice หลายๆ อย่างที่มีอยู่ในระบบ แต่ตอนนี้เหมือนแบ่งแยกกันค่อนข้างชัดเจน มีโอกาศไม่บ่อย ที่จะได้ทำข้ามกัน
- Time Booking: เป้าหมายหลักๆ ของ time booking น่าจะเป็นการลงเวลาตามจริง เพื่อที่จะได้กลับมาเช็คได้ว่า project นี้ CR นี้ ใช้เวลาไปเท่าไหร่ ยังไง แต่กลายเป็นว่า การลงเวลาใน project หรือ CR ต้องลงตามที่ได้ ประเมิณไว้ เกินก็ไม่ได้ ถ้าเกินก็จะถูกบังคับให้เอาเวลาไปแปะที่นู่นที ที่นี่ที แล้วแบบนี้ สมมุติ ตอนหลังจะกลับมาดูว่า project นี้ใช้เวลาไปเท่าไหร่ มันจะได้ข้อมูลที่ตรงหรอ ส่วนตัวคิดว่าหากประเมิณไว้ขาด หรือ เกิน บริษัทก็ควรจะรับส่วนนี้ไป แล้วมาปรับปรุ่ง effort estimation กันทีหลัง ไม่ใช้ว่า ใครได้ทำ project/CR ที่ประเมินไว้น้อยก็ซวยไป ทำงานกันหักปักหัวปำแต่ต้องไปลงเวลาอย่างอื่น
- Time Booking: อีกอย่างนึงคือเกือบทุกอย่างผูกกับเบอร์ IMS ซึ่งเบอร์ IMS จะเกิดได้ หมายความว่าต้องมีปัญหามาก่อน แบบนี้ทำให้ไม่เอื้ออำนวยในการทำ preventive action สมมุติไปเจอเรื่องอะไรที่รู้ว่าเดี๊ยวต้องเป็นปัญหาแน่ๆ ถ้าอยากจะป้องกันไม่ให้มันเกิด issue ขึ้นมาจริงๆ ต้องไป สร้าง IMS เปิด ICR ขอ approve bha bha bha ซึ่งค่อนข้างใช้เวลา สมมุติเกิดมันเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ไม่มี authorization ในการทำ ต้องติดต่อทีมอื่น ก็ลืมไปได้เลย เพราะอย่างแรกที่คนส่วนมากจะถามคือ IMS เบอร์ไร
- Personal Development: อย่าผูกกับ Bond Agreement ได้ไหม -.-
เหมือนว่า blog นี้จะบ่นอย่างเดียวเลยเพราะเรื่องดีๆ พูดมาหลาย blog แล้ว :D แต่รวมๆ Atos ก็เป็นบริษัท ที่น่าทำงานด้วยมากบริษัทนึง ทั้งเรื่องงาน เรื่องเงิน เรื่องสิทธิประโยชน์ต่างๆ ถ้าคิดหลายๆมุมแล้ว ก็ไม่รู้จะออกไปไหนที่ดีกว่านี้เหมือนกัน
Leave a Reply